วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Winged Migration


Winged Migration
Academy award nominee best documentary feature 2002

Directors - Jacques Perrin, Jacques Cluzaud
Narration - Phillippe Labro

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Jun 7 2009, 06:39 PM

สารคดีเกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นของนก ที่ใช้เวลาถ่ายทำ 4 ปี ใน 40 ประเทศ 7 ทวีป มีทีมงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 400 คน, นักบิน 17 คน และช่างภาพอีก 14 คน ใช้ทั้งเครื่องบิน, เฮลิคอปเตอร์, บอลลูน, พาราชู๊ต และเรือ เพื่อเก็บภาพที่จัดได้ว่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดและใกล้ชิดที่สุด สารคดีหนึ่งที่เคยสร้างกันมา ก่อนหน้านี้ถ้าใครเคยดู planet earth หรือ baraka จะเห็นได้ว่า พวกนี้ก็สุดยอด ยิ่ง baraka ที่ถ่ายแบบ 70 มม. แล้วพึ่งจะเอากลับมารีทัชใหม่แบบ 24 k แบบเฟรมต่อเฟรม ลง blu ray ยิ่งทำให้คุณภาพของภาพมีความโดดเด่นขึ้นไปอีก แต่สารคดีนี้ ก็เด่นที่มุมกล้องและการนำเสนอ ไม่แพ้สารคดีใดๆเลยเหมือนกัน

มุมกล้องส่วนใหญ่เป็นแบบซูมใกล้ และแบบ bird eye view จริงๆ ไม่ใช่แค่ถ่ายจากด้านบนเท่านั้น แต่หมายถึงถ่ายในระดับเดียวกับนกเลย ถ้าดูจากเบื้องหลังการถ่ายทำจะเห็นว่าทีมงานตั้งใจกันมากๆ เริ่มตั้งแต่ที่ศูนย์เลี้ยงนกในแคนนาดา แล้วค่อยๆ สอนให้นกรู้จักผู้ฝึกและไว้ใจ ให้คุ้นเคยกับเสียงเครื่องยนต์และเสียงแตรสัญญาณ เพื่อให้นกชิน กันตั้งแต่เล็กๆ ทีมงานทุ่มเทขนาดว่า วิ่งด้วยกัน ว่ายน้ำด้วยกัน กับนกที่ฝึก ซึ่งจริงๆก็ควรต้องทำเพราะหากอยากได้มุมกล้องอย่างในสารคดีนี้ อย่างหนึ่งที่ต้องมีคือความไว้ใจและคุ้นเคยกันระหว่างคนกับนก

โดยนกที่ถ่ายทำนั้นครอบคลุมประเภทของนกอพยพและไม่อพยพ (ประเภทนกประจำถิ่นไม่ย้าย)ได้ค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่ เป็ด, ห่าน, นกน้ำ, นกนางนวล, อัลบาทอล, การ์เน็ต, นกปากห่าง, กระเรียน, กระสา หรือแม้กระทั่ง นกแก้ว นกเพนกวิน และอื่นๆ แล้วแต่ละประเภทย้ายถิ่นกันทีเป็น พันๆไมล์ขึ้นไปทั้งนั้น (การอพยพ นกใช้ทั้งดาว, ดวงอาทิตย์, กระแสลม และ landmark เช่นปราสาท, โรงงานหรือทะเลสาบ ที่เหมือนบอกต่อๆโดยนกรุ่นพี่) บางประเภทเวลาอพยพแล้วน่าสงสารมากอย่างกับหนังชีวิตเลย ผ่านทั้งน้ำเน่า, อากาศเป็นพิษ (ต้องดูช๊อตที่ผ่านยุโรปตะวันออก นั่นดงโรงงานถ่านหินเลย) ทั้งคนจ้องดักยิง, ดักจับไปขาย ทั้งศัตรูตามธรรมชาติและไม่ธรรมชาติ

เปิดฉากมาใครจะคิดว่าหนังสารคดีอย่างนี้จะมี พระเอก หรือผู้ช่วยพระเอก แต่เรื่องนี้มี แล้วมันช่างทั้งน่าขันทั้งน่าเศร้า คือ พระเอกเป็น นกเป็ดน้ำ ผู้ช่วยพระเอกคือเด็กน้อย แต่สุดท้ายแล้ว พระเอกของเรา ต้องพึ่งพาผู้ช่วยมากทีเดียว เหมือนจะบอกว่า มีแต่คนเท่านั้นที่อำนาจทั้งทำลายล้างและทั้งช่วยบำบัดทุกข์ ให้สัตว์อื่นๆ ต้องลองดูตอนที่เป็นนกแก้วในอเมซอน แล้วจะเห็นภาพมาก ภาพสีสรรของนกที่สวยงามตัดกับสถาพป่า ที่ในที่สุดสีสรรนั้นกลับย้อนมาทำร้ายตัวเอง แต่วิธีแก้ของนกน่ารักมาก แอบลุ้นไปโดยไม่รู้ตัว

ความหลากหลายของนกทำให้เกิดความหลากหลายในด้านพื้นที่ที่ถ่ายทำไปด้วยในตัว หลายๆพื้นที่ ทีมงานใช้วิธีถ่ายทำที่ทำให้ได้มุมกล้องที่เด่นมากๆ ตอนดูเบื้องหลัง มีฉากหนึ่งถ่ายแบบ กล้องจะทิ้งดิ่งตกลงมาตามหน้าผาเพื่อจับภาพนกทะเล (โดยมากนกทะเลชอบทำรังกันตามหน้าผาชัน ถ้าใครจำได้จากการดูพวกสารคดีสัตว์) คนบรรยายพูดถูกอย่างหนึ่งคือ นกนั้นไม่กลัวแรงดึงดูด แน่นอนเพราะนกมีโครงสร้างที่เบา (มีฉากหนึ่งเป็นลูกนกหัดบิน เพ่แกเล่นกระโดดลงจากหน้าผาลงทะเลเลย กล้ามากก เหอๆ) ฉะนั้นผู้ถ่ายทำจึงพยายามทำให้ได้เหมือน เหอๆ ดูโหดน่าดู แค่เฉพาะการติดตั้งกล้องเท่านั้นก็เสียวได้แล้วล่ะ

จากมุมกล้องให้ความรู้สึกดูแล้วเหมือนบินไปกับนกจริงๆ แม้จะเปลี่ยนประเภทของนกไปอย่างไร มุมกล้องและความรู้สึกนั้นก็ไม่ได้หายไปด้วย ได้ความรู้สึกเป็นอิสระ เหมือนดังที่คนในอดีตใฝ่ฝัน อีกอย่างหนึ่งพึ่งได้มีโอกาส ดูสารคดีที่เป็นแต่เรื่องนกจริงๆครั้งแรก ตอนแรกคิดว่าจะน่าเบื่อรึเปล่า แต่ปรากฏว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่ ทั้งเทคนิคการถ่ายทำ หรือการเลือกประเภทของนก ก็ทำให้น่าดูมากขึ้น จริงอยู่ว่าบางประเภทเราอาจเคยผ่านตามาบ้าง เช่น วิธีวางไข่หรือเลี้ยงลูกของเพนกวินจักรพรรดิ์ แต่อันนี้ ให้มุมมองอีกอันค่อนข้างโหดดี เหมาะกับโลกอันโหดร้าย และอีกอย่าง จะให้ถ่ายแบบใหม่หมดจริงๆคงยาก สารคดีนั้นทั้งสร้างและมีออกมาแล้วมากมายแล้วจะให้ใหม่เอี่ยมคงยากจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม สารคดีเรื่องนี้ยังมีดีพอให้น่าจดจำ ในภาวะที่โลกเราเรียกร้องให้คนหันกลับมาใส่ใจสภาพแวดล้อมมากขึ้น ให้ใส่ใจเพื่อนร่วมโลกมากขึ้น (มีทั้ง dvd และblu ray)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น