วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Lars And The Real Girl


Lars And The Real Girl
Directed by Craig Gillespie

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Jan 28 2009, 10:15 PM

ครั้งแรกที่รู้จักเรื่องนี้ ผมคิดว่าเป็นหนังตลก แบบขำไปเรื่อย คือด้วยชื่อเรื่องกับตัวอย่างหนังที่ดูผ่านๆตา คือทำนองว่า ผู้ชายคนหนึ่งที่ทุกคนมองกันว่า เป็นคนน่ารัก เงียบๆ แต่ดันไปชอบตุ๊กตายาง อันนี้หลายคนคงเคยได้รับเมลเวียน ที่มีรูปตุ๊กตาแบบเหมือนจริง ซึ่งเอาไว้ทำอะไรบ้าง หลายคนอาจจะรู้(หุหุ) ออกมาขาย ซึ่งมีทั้งแบบญี่ปุ่นและแบบฝรั่ง

แต่พอดูไป ผมพบว่านี่เป็นหนังที่ออก ดราม่าปนขำ หรืออาจจะเรียกว่าตลกร้าย ก้อได้ แต่ หลังจากดูเสร็จ ผมกลับเปลี่ยนใจว่านี่คือตลกที่กินใจสุดๆ แน่นอนผมถามตัวเองว่า ไอ้คำว่า หญิงจริง เนี่ย มันหมายถึงอะไร หรือจริงๆแล้ว มันคือความหมายใด ถ้ายกบางตอนมาจะเห็นว่า แต่ละคนก้อมองต่างออกไป เช่น ผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า เค้าก้ออยากได้เหมือนกันผู้หญิงที่พูดไม่ได้ หรือ ผู้หญิงอีกคนว่า เพราะตุ๊กตามีอวัยวะผู้หญิงจึงถือเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ผมชอบ ความเห็นของผู้หญิงแก่อีกคนที่ว่า ไม่มีผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีคนใดยอมเป็นทาสรับใช้ไปเรื่อยๆโดยไม่เคยมีปากเสียง คือทำนองว่า อย่ามองว่าเป็นอย่างตุ๊กตา

จริงๆแล้วในเรื่องนี้มีประโยคดีๆมากมาย คือ ต้นๆเรื่องๆอาจจะรู้สึกแปลกๆบ้าง หลังจากนั้น คุณจะเริ่มเห็นสิ่งที่ดีงามที่คนแวดล้อมกระทำต่อกัน คือ เรื่องประมาณ จิตหลอนหรืออาการทางจิตแบบแยกตัว ไม่สามารถแก้ไขได้คนเดียวหรือแค่ครอบครัว ซึ่งฉากที่อธิบายได้ดีก้อเป็นฉากที่ ครอบครัวมาขอร้องชุมชนให้ช่วยกัน เออไปหน่อย แบบช่วยๆกันตามน้ำ เรื่องที่ ลารส์ ชอบตุ๊กตายาง เพื่อที่ ลารส์จะได้ไม่รู้สึกแปลกแยกหนักขึ้นไปอีก มีคนในชุมชนว่ามันประหลาด แต่มีอีกคนว่า การที่บางคนแต่งตัวให้หมา แมว หรือ ชอบหยิบของเล็กๆน้อยๆ นั่นไม่เรียกว่าแปลกหรือ อึม.......ก้อน่าคิดนะ คำว่าแปลก ไร้สาระ อยู่ที่ว่า คุณมองจากด้านใด เช่นถ้าคุณชอบเลี้ยงงูพิษสักตัว คุณก้ออาจไปออก รายการแอนิเมลแพนเนต แต่ถ้ายุคกลางคุณ คือ แม่มดเลยล่ะ และแน่นอนโดนเผาทั้งเป็นแน่ ผมมองว่าเรื่องพวกนี้ เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและสภาพสังคม หนังเรื่องนี้ทำให้เรามองย้อนบางอย่าง ถึงคนที่เห็นต่างในสังคม ว่าไม่ใช่ทุกคนที่ประหลาด (ก้อคงยกเว้นบางกรณีที่หนักข้อไปได้เหมือนกัน)เหมือน อริสโตเติล เคยกล่าวว่า มนุษย์เป็นตุลาการที่เลวเมื่อต้องวินิจฉัยเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง ประมาณว่าคนอื่นประหลาดเสมอยกเว้นตัวเรา

อีกด้านหนึ่งนอกจากครอบครัวและชุมชนแล้ว อีกมุมของเรื่องคือ ผู้หญิงอีกท่าน ที่เข้ามาแข่งขันกับดารานำหญิงของเรา ผมหมายถึงผู้หญิงจริงๆอ่ะ น่าสนใจมาก และจุดเปลี่ยนก้อทำได้น่าสนใจ ส่วนหนึ่งเลยต้องยกความดีความชอบให้คนเขียนบท ที่เขียนได้ดีลงตัว ที่ว่าลงตัวอีกประการก้อเพราะผมชอบตอนจบมากๆ ตอนที่ บาทหลวงเทศน์ คือผมว่ามันสรุปได้หมดจดดีจริงๆ

ส่วนพ่อหนุ่มคนนี้ ryan gosling ยอมรับว่านี่คือคลื่นลูกใหม่จริงๆ คือเล่นได้เด่นและเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง ประมาณว่ารู้ว่าจังหวะใดควรด้นสด และควร ด้นสดอย่างไร ผมเคยดูเค้าเล่นในบทนำ อยู่เรื่องเดียว คือเรื่อง Fracture เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ สอง ส่วนมากก่อนหน้านั้นเห็นเล่นบทตัวประกอบ อยู่หลายเรื่อง น่าจับตาดูเป็นอย่างยิ่ง (ปล.ผมเห็นในปกเคยได้รับการเสนอชื่อ ออสการ์ ปี 2006 ด้วย)

ส่วนดาราคนอื่น ก้อเล่นกันได้ดีทุกคน เหมาะกับบทกันอย่างยิ่ง ตัวละครอีกตัวที่ผมชอบ ก้อ บทหมอ (คนที่เล่นใน green mile) กับพี่สะใภ้ (ที่จำได้ก้อ match point หนัง วู้ดดี้ อเลน ที่ถ่ายตึกสวยๆมาด้วย) นี่ล่ะ ประทับใจครับ ยังไงคงต้องไปดูกัน

เรื่องนี้ผมเจอโดยบังเอิญ ในร้านขายดีวีดีทั่วๆไป ราคาก้อปกติ มีบรรยายไทยเรียบร้อย ขาดเพียงพากย์ไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น