วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

The god who wasn't there


The god who wasn't there
Brian Flemming

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Nov 9 2008, 09:00 PM

เชื่อกันว่า ศาสนาที่สำคัญสุดๆในโลก 2 ศาสนา อาจมีที่มาจากที่ๆเดียวกัน หรือมีพระเจ้าองค์เดียวกัน หรือ หนักกว่านั้น พระเจ้าองค์นั้นยังเชื่อมโยงกลับไปหา ศาสนาและลัทธิอื่นๆที่มีมาก่อนหน้าไปอีกเป็นพันปี

แล้วทำไม 2 ศาสนาที่ว่า ถึงฆ่ากันจะเป็นจะตาย (อย่างว่าในไทยยังเคยมีพระเทศน์ว่าฆ่า คอม ไม่บาป หนักก่านั้นให้เลือกข้างแล้วฆ่ากันไปเลย) ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ศาสนาหนึ่งรุนแรง หรืออีกศาสนาหนึ่งงมงายจนยึดติด (อย่างว่า พระไทยก้อยึดติด ทั้งเรื่องศาสนสถานที่แข่งกันเป็นบ้าเป็นหลัง หรือเรื่องเพี้ยนๆอีกหลายๆเรื่อง) แต่มันอยู่ที่การตีความของ คนที่เดินต่อๆกันมามากกว่า เพราะทุกศาสนาสอนให้เราหลุดพ้นไปจากกรอบที่ปิดกั้นเรา ซึ่งถ้าเราศึกษาดีๆจะพบความหมายที่คล้ายๆกัน ในศาสนาหลักๆในโลก (แม้กระทั่งนิกายตันตระ ที่เน้นการเล่นกับกิเลส ให้หนัก ก้อเพื่อให้เกิดความเบื่อหน่าย และเห็นธาตุแท้ ของเรื่องเพศ หรือเรื่องของมึนเมานั้นเป็นมายา ...แต่ คนไม่ค่อยคิดกันในแง่นี้)

กรอบที่คนยึดติดคืออะไร..... อะไรที่เป็นไปตามบุ๊ค เค้าว่าถูก เช่น สารคดีเริ่มต้นด้วยว่า แต่ก่อนคริสต์เชื่อกันว่าพระอาทิตย์หมุน รอบโลก แล้วต่อมา เราถึงรู้ว่ามันไม่จริง...สารคดีตั้งคำถามต่อว่า แล้วงั้นยังจะมีอะไรอีกที่อาจผิดพลาดได้....นั่นคือการเดินตามแบบแน่นอนไม่ได้หมายความว่าถูก......ต้องใช้สติด้วย

สารคดีเริ่มตั้งคำถามต่อไปถึงยุคแรกของคริสต์ หรือประมาณ 1 ร้อยปีแรก / ประมาณ 33 ปีแรก นั่นคือชีวิตของพระคริสต์ / ประมาณปีที่ 70 กว่าๆ เป็นการเริ่มต้นของกอสเปล มาร์ก / ช่วงกลางประมาณปีที่ 50 เป็นเรื่องของปอลระหว่างทางไปดามัสกัส ....รายละเอียดคงต้องดูต่อในสารคดี เพราะมันจะเริ่ม ลงรายละเอียดมากขึ้น (แต่นั่นแหละ เป็นความเห็นส่วนตัว) สารคดีเริ่มมาชี้ถึงช่องว่าง ที่หายไปของเวลาประมาณ 40 ปี ระหว่างหลังจากพระคริสต์ละโลกกลับสวรรค์ กับช่วงที่ปอลไปดามัสกัส สารคดีถามว่าระยะเวลาที่ห่างขนาดนั้น แล้วเรารู้ได้ไง ว่าทุกสิ่งที่มาจดกันภายหลังเป็นเรื่องจริง

สารคดีเริ่มต่อไปด้วยการคุยกับ ศาสนิกชนที่ดี เรื่องพระศาสดา ซึ่งแน่นอนมันก้อควรมีแต่เรื่องที่ดีงาม ทำให้ใจผ่องแผ้ว จริงๆ ก้อทุกศาสนานั่นแหละ ....แต่ส่วนที่พลิกลำ ก้อมีการยกตัวอย่างพวกที่อ้างพระเจ้าแต่เพี้ยนๆกันบ้าง เช่น ชาร์ล แมนสัน หรือ ฉายาว่า จีซัส ไครต์ ว่าเป็นแรงบันดาลใจให้ สาวกฆ่าคนไป 17 คน, หรือ แม่ที่เป็นพวกคลั่งศาสนา ตัดแขนลูกของตัวเอง เพื่อพระเจ้า หรือ นักเทศน์รุ่นใหม่ ที่แนะให้คนไป วางระเบิดที่ทำการรัฐ.......คนเหล่านี้อ้างพระเจ้า ทั้งในเรื่องแย่ๆและเรื่องดีๆ......แน่นอนไม่มีใครรู้ว่าทำไม ในกรณีคนแย่ๆ

สารคดีนี้มุ่งค้นหาและแย้งเรื่องอีกมุมหนึ่ง จากหลายๆคน และบางคน เราจะรู้เลยว่าเรื่องของความเชื่อ ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ลองไปดูไอเดียของ ดอกเตอร์ ที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนที่สารคดีนี้ไปสัมภาษณ์ ก้อได้ หรือบางคน พูดเหมือนกับว่า ยกย่องความชอบธรรมในการถล่มอิรัก เพราะประเด็นศาสนา ในแง่นี้ อ้างไบเบิล....และในอีกหลายกรณี ตอนท้ายๆ ท่านจะต้องตกใจ บางเรื่อง ว่า..มันมีงี้ด้วยเหรอ

สารคดีเองยาวประมาณ 1 ชม. บวก อ๊อฟชั่นพิเศษ สัมภาษณ์ เพิ่มอีกประมาณ 1 ชม. อย่างแรกผมชอบหน้าปกนะ เป็นรูป พระคริสต์ ศิลปะไบแซนไทน์ ที่ประกอบจากรูปย่อยๆ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นรูปลักษณ์แรกๆ ของพระคริสต์ เพราะศาสนาพึ่งลงหลักปักฐานแน่นอนในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ของไบแซนไทน์หน้าจะออก แขกๆนิด

อีกอย่างที่ชอบ เพลงประกอบครับเพราะดี ยิ่งเอามาเปิด แล้ว โชว์หน้า ชาร์ล แมนสัน นี่แบบ เสียวๆเลย...อันนี้เป็น โซน 1 ไม่มี ซับ ดูยากเล็กน้อย แต่ถ้ามีฐานเรื่องศาสนามาบ้าง น่าจะ เข้าถึงได้เร็วกว่านี้อีก คือ ผมเอง งงในบางจุดเลยต้องดูซ้ำ แต่อย่างไรก้อตาม ถ้าบางท่านรับไม่ได้ กรณี ดาวินชี โคด ก้อไม่ควรดู สารคดีนี้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น