วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ผู้ทำให้เทพธิดารอคอย - 11เรื่องสั้นคัดสรร 11 นักเขียนโนเบล


ผู้ทำให้เทพธิดารอคอย - 11เรื่องสั้นคัดสรร 11 นักเขียนโนเบล
วิมล กุณราชา แปล
สนพ. นาคร

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Jul 14 2009, 10:14 PM

ในบรรดาหนังสือในท้องตลาดที่มีมากมายมหาศาล ทำให้เป็นการยากจริงๆ ที่จะรู้จักนักเขียนทั้งหมด หรือ เลือกงานแบบที่เราคิดว่าน่าจะชอบ ยังไม่รวมถึง ความเห็นส่วนตัวหลังการอ่านว่า หัวอาจไปไม่ถึงเพดานของคำวิจารณ์ทางความคิดทั้งหลายของหนังสือที่ได้ชื่อว่า "คลาสสิค" / บางเล่มเห็นขนาดแล้วชวนท้อถอย, บางเล่มพิมพ์แต่คำชมเสียใหญ่โตไว้หลังปก อุปมาดั่งเกี่ยวเหยื่อไว้ล่อปลาให้มาติดเบ็ด, บางเล่มอ่านไปอ่านมาน่าเบื่อ น้ำท่วมทุ่ง ความคิดแทบไม่ต่างจากเราทำรายงานส่งอาจารย์ บางคนเริ่มท้อ บางคนเริ่มเบื่อ / อย่างไม่นานมานี้ ผมรู้สึกเองว่าการหาหนังสือ แบบใหม่จริงๆอ่าน อาจยากกว่าหาหนังสือเก่าๆอ่านเสียด้วยซ้ำ

แต่อย่างหนึ่งการันตีได้ก็คือ นักเขียนระดับตำนาน มักไม่ค่อยทำให้ผิดหวังในการหามาอ่าน เหมือนวงดนตรีชั้นดี มักไม่ค่อยทำให้ผิดหวังแม้จะไม่สมหวังสุดๆก็ตาม อย่างเล่มนี้เป็นการรวมนักเขียนระดับขึ้นหิ้ง 11 คนมารวมกัน หลายคนหาอ่านยากจริงๆ หลายคนเคยอ่านมาแล้ว แต่อีกหลายคนก็ไม่เคยอ่านมาก่อน ซึ่งนับว่าโอกาสประจวบเหมาะพอดีกันให้ได้มาไว้ในครอบครอง สำหรับผมเองความตั้งใจคือ Anatole France อยากหาอ่านมานานแล้ว พึ่งสมหวังงวดนี้เอง

ในเล่มนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนเรื่องสั้น กับส่วนประวัตินักเขียน ซึ่งในแง่หนึ่งนับว่าดี จะได้รู้จักมักคุ้นกันได้ก่อน เหอๆ เรื่องแรก ตามชื่อหนังสือเลย โดย กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ ผู้ซึ่งโด่งดังจากหนังสืออภิมหา เรื่อง "หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว" ลีลาและสไตล์ ลึกลับเกี่ยวพันกับอำนาจเหนือธรรมชาติ ในเรื่องนี้มีบรรยากาศเป็นอย่างนั้นแต่ อาจจะงงๆไปบ้าง / เรื่องที่สอง "อ้างว้างกลางมหาวิทยาลัย" โดย ซินแคลร์ ลูอิส การดำเนินเรื่องกับโครงเรื่องเด่นมาก แถมตอนจบก็จบแบบประทับใจดั่งหวัง กับเรื่องของชายแก่คนหนึ่งในมหาวิทยาลัย / เรื่องต่อมา "ตามหามิสเตอร์กรีน" โดย ซาอูล เบลโล ส่วนตัวผมชอบประวัติชีวิตแกนะ เหอๆ ส่วนเรื่องนี้ค่อนข้างยาวพอตัว / เรื่องที่ 4 "รอยปาน" โดย มิคาอิล อเล็กซานโดรวิช โชโลคอฟ เรื่องนี้มีที่มาที่ไป ต้องอ่านจากในส่วนประวัติส่วนตัวดู ว่าถึงเนื้อเรื่อง การที่เดาตอนจบได้ ไม่ได้ทำให้ลดพลังในการนำเสนอของเรื่องไปเลย ยังสนุกน่าอ่าน / เรื่องที่ 5 "วิญญาณชั่วร้าย" โดย ลุยจิ พิแรนเดลโล ดำเนินเรื่องดี แถมตอนจบ สะใจมาก สะท้อนอะไรบางอย่างเหมือนกัน

เรื่องที่ 6 "กำแพงประหาร" โดย ชอง-ปอล ซาร์ตร์ ยอดนักเขียนนามอุโฆษ ชาวฝรั่งเศส เหมือนที่เคยแนะนำนักเขียนอีกคนไป คือ การ์มูส์ เรื่องนี้ค่อนข้างมีสัญลักษณ์เล็กๆน้อยๆ ซ่อนอยู่ คือจะอ่านแบบพยายามเข้าใจ ปรัชญาในแนวทางเขาก็ได้ อ่านเล่นๆก็ได้ เพราะอ่านสนุกแถมจบแบบหักมุมดี / เรื่องที่ 7 "หญิงซักผ้า" โดย ไอแซค บาเชวิส ซิงเกอร์ ส่วนตัวผมชอบเรื่องนี้ในแง่ที่กินใจมาก แม้จะเป็นแค่เรื่องสั้นที่มีเลนวิ่งให้ทำระยะกับความรู้สึกสั้นก็ตาม / เรื่องที่ 8 "นักแสดงมายากล" โดย อนาโทล ฟร็องซ์ ดำเนินเรื่องเหมือนไปเรื่อยๆ แต่จุดมุ่งหมายหากอ่านผ่านๆอาจไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ แต่ผมรู้สึกเองว่าตอนจบนี่ แดกดันดีแบบไม่น่าเกลียดมาก...มั๊ง?

เรื่องที่ 9 "อ้างว้างในต่างแดน" โดย อัลแบร์ต การ์มูส์ ส่วนตัวผมชอบเรื่องนี้มากที่สุด เรื่องที่ชอบรองๆลงไปถึงจะเป็น "อ้างว้างกลางมหาวิทยาลัย" ที่ชอบเรื่องนี้ เพราะผมชอบ วิธีการบรรยาย สไตล์การ์มูส์ ตอนท้ายเรื่องและตอนจบอ่านได้แบบ ได้จินตนาการมาก / เรื่องที่ 10 "มือสังหาร" โดย เออร์เนสต์ เฮมิ่งเวย์ รุ่นใหญ่ของวงวรรณกรรมอเมริกันอีกคน เรื่องนี้นำเสนอได้แปลกสุดในบรรดาทุกเรื่องในเล่มนี้ เพราะเน้นการใช้บทสนทนาระหว่างตัวละครดำเนินเรื่องเป็นส่วนใหญ่ การบรรยายประกอบมีน้อยมากๆ เรื่องออกลูกทุ่งๆนิดและจบแบบให้คิดเอาเอง / เรื่องสุดท้าย "นกตะขาบ" โดย ยาสึนาริ คาวาบาตะ สมัยผมเรียนมัธยม คนนี้ค่อนข้างดังพอควรขนาดเพื่อนผมไม่ค่อยอ่านพวกหนังสือแปลยัง รู้จักคนนี้เลยแต่เรื่องนี้ผมว่า จบได้แบบขัดใจมากที่สุด แบบจบดื้อๆเลย ทั้งๆที่ดำเนินเรื่องได้ละเอียด ละมุ่นละไมมากแต่พอจบก็จบมันซะงั้น เหอๆ ต้องไปอ่านดูในภาคประวัติ ก็จะเข้าใจได้ครับว่าทำไมผู้เขียนจึงทำอย่างงั้น อันนี้ตั้งใจนะครับ

ในภาคประวัติก็น่าสนใจครับ แต่ละคนก็มีปมต่างกันไป บางคนปมชีวิตสุดจะทานทน บางคนก็มาแบบไม่น่าเชื่อว่าจะดังเพราะมาแบบคนไม่น่าสนใจ แต่สุดท้ายดังทั้งเงินทั้งกล่อง, บางคนก็เลือกจบชีวิตตัวเองเพราะมีปัญหา เบื้องหลังชีวิตน่าอ่านไม่แพ้นิยายเลย / เล่มนี้น่าสนใจในแง่ที่ว่าเป็นการรวมดาว และการคัดสรรเรื่องก็ใช้ได้ ได้อ่านนักเขียนดังๆ หลายคนได้ในคราวเดียว เหมือนไปช๊อปปิ้งที่ ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ประมาณนั้น สินค้าวางบนชั้นในสภาพน่าซื้อให้เลือกอ่าน ไฟส่องสว่างพื้นสะอาดสะอ้าน ที่เหลือก็เราเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น