วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การต่อสู้ของทุนไทย - การเมือง วัฒนธรรม เพื่อความอยู่รอด 2


การต่อสู้ของทุนไทย - การเมือง วัฒนธรรม เพื่อความอยู่รอด 2
ผาสุก พงษ์ไพจิตร บรรณาธิการ
สกว. / สนพ. มติชน 2549

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Oct 11 2008, 10:32 PM

ชุดนี้มี 2 เล่ม แต่ที่เลือกอ่านเล่มนี้ก่อน เพราะรู้สึกถึงความสนุกที่มากกว่า / แนวของเรื่องจะเป็นการอธิบาย ในเรื่องทุนไทยหลังวิกฤต 2540(ปีที่ผมจำอย่างแม่นยำเหอๆ) หลังเหตุการ์ณนี้ เราเข้าใจเรื่องค่าเงินบาทและเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น ผมเกือบโดนไล่ออก เพื่อนหลายคนโดนไล่ออกเพราะดันเป็นเด็กใหม่ในบริษัทใหญ่ หลายๆครั้งนึกไปก้อขำดี ว่าเหมือนมันจะกลับมาอีกแล้ว ฉะนั้นผู้ที่เตรียมตัวพร้อมสุด ก้อมีโอกาสรอดสูงสุด พึ่งเห็นข่าวไปว่า ปีหน้าเด็กจบใหม่อาจหางานยากขึ้น และแรงงานไร้ฝีมืออาจจะตกงานมากขึ้น อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง ดังนั้นการเข้าใจภาพคร่าวๆของวิกฤตไทยก้อน่าสนใจไม่น้อย

บทความในเล่มนี้
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับบทบาทการลงทุนทางธุรกิจ
พอพันธ์ อุยยานนท์
สนง.ทรัพย์สินฯ ลงทุนในตลาดทุนไทยสูงในอันดับต้น มีบทบาทในการขับเคลื่อนระบบสูง ทั้งด้านการเงินหรือที่ดิน จริงๆน่าจะเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด ในตลาดทุนไทย และ เป็นผู้เล่นระดับใหญ่ของตลาดทุนในต่างประเทศ ปัจจัยและฐานการเงินที่สำคัญก็น่าจะเพราะเป็นเจ้าของที่ดินเฉพาะในใจกลางกรุงเทพ ถึงประมาณ 1ใน3 ไล่ไปตั้งแต่ อนุเสาวรีย์(แต่ตอนนี้เปลี่ยนมือเป็นของรัฐบาลในสมัยแม้วไปแล้ว อันเนื่องมาจากวิกฤตของ สนง.ทรัพย์ฯ เอง) แถวสยามพารากอน, ราชดำริ หรือ สวนลุมไนท์บาร์ซ่า หรือบทบาทในฐานะผู้ถือหุ้น ใน เครือซีเมนต์ไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, เทเวศประกันภัย และอีกมาก หรือการมีส่วนสัมพันธ์การลงทุน กับหุ้นส่วนในต่างประเทศ อีกหลายประเทศก้อตาม

การอ่านผมว่าเป็นไปเพื่อการเรียนรู้ หรือจะเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันก้อได้ เพราะแนวทางทำธุรกิจน่าสนใจมาก เพราะอย่างหนึ่งคือ หลังวิกฤต ทุกคนโดนหมดครับ การดูวิธีหรือเรียนรู้การแก้ปัญหา ของผู้บริหารจะทำให้เราเห็นทางบ้าง แม้ไม่ใกล้เคียงมากๆก้อตาม

มังกรฤาหมดเขี้ยวเล็บ - ธนาคารพาณิชย์ไทยหลังวิกฤตเศรษฐกิจ
อุกฤษฎ์ ปัทมานันท์ และ รัตพงษ์ สอนสุภาพ

ในส่วนบทความนี้น่าจะเป็นอันที่ชอบสุด อันเนื่องจาก ตัวผมเองไม่ได้เรียนต่อหรือมีความรู้ด้านการเงินการธนาคาร มากพอทำให้ เวลาอ่านนิตยสารพวกการเงิน หรือดูโทรทัศน์ช่องธุรกิจ จะงงพวกศัพท์เฉพาะบ่อยๆ คือจริงๆ ก้อพยายามหาความรู้เพิ่มตลอด แต่มักจะไม่ค่อยตรงใจเท่าไหร่ เหอๆคือเค้าคงเขียนหรือทำรายการให้พวกพอมีฐานแล้วอ่านอ่ะนะ

แต่อันนี้ตอบข้อสงสัยบางส่วนด้านธนาคารและการเงินกับพวกสินเชื่อบางตัว เพราะว่ามีการยกตัวอย่างพวกที่มีปัญหามาประกอบด้วย ทำให้ความเข้าใจมากขึ้นอีก อึมมมม สำหรับผู้ไม่สนใจด้านนี้ก้อสามารถอ่านได้ คือ ท่านคงเคยได้ยินแผน ของกระทรวงการคลัง ซึ่งขณะนี้ประกาศใช้แล้ว เรื่องการประกันเงินฝากซึ่งจะค่อยๆ ลดวงเงินประกันลงจนไม่รับประกันเลย ภายใน 5 ปี กรณีนี้ท่านจะได้ ทำความเข้าใจเรื่อง ธนาคารในระดับหนึ่ง จะได้หาอ่านต่อหรือติดตาม เพื่อเลือกธนาคารที่ท่านจะฝากเงินต่อไป จริงๆแล้ว ผมว่าเหมาะสำหรับท่านที่มีเงินฝากเกิน 5 ล้านน่าจะเหมาะนะ เหอๆในแง่นี้ แต่เงินน้อยกว่าก็ดูได้

หรือถ้าท่านเริ่มสนใจในเรื่องค่าเงินเฟ้อ ทั้งทางเทคนิคหรือไม่เทคนิค จริงๆหาดูได้จากเวปธนาคารแห่งประเทศไทย ท่านก้อสามารถอ่านเพื่อ ไกด์ตัวเองไปหาข้อมูลเพื่อการลงทุนในระดับที่ลึกยิ่งขึ้นต่อไป เพราะการลงทุนไม่ใช่เล่นปาหี่ จะได้ใช้จำขี้ปากเค้าแล้วตามกันไป เวลากำไรหรือขาดทุนมันเงินจริงๆ เหอๆ

สองนคราค้าปลีกไทย
วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร

สิ่งที่ได้คือภาพที่ชัดเจนขึ้นในแง่ค้าปลีกครับ คือเดียวนี้มันกลายเป็น talk of the town ไปแล้ว คือบางทีเราจะงง ว่าทำไมว่ะ แล้วก้อดูเอาจาก นักวิชาการมั้ง เกินมั้ง มาใช้ในการเข้าใจ ถามว่ามันสะเทือนถึงเราไหม ผมว่าทุกเรื่องหากมีเงิน เข้าไปเคลื่อน สะเทือนทั้งนั้น ไม่มากก้อน้อย เหมือนแค่การสร้างอาคารหนึ่งหลัง ก้อมีผลกับครอบครัวอื่นๆนับสิบครอบครัวแล้ว

แต่ส่วนหนึ่งผมรู้สึกไม่อิ่มในบทความนี้ เหมือนมันขาดๆอารายไป แต่ก้อเข้าใจว่าเนื้อหาพวกนี้มันเยอะ

ก่อสร้างการเมืองไทย การเมืองก่อสร้าง
นพนันท์ วรรณเทพสกุล

ใกล้ตัวและอ่านเสร็จจะเข้าใจมากขึ้น เหมือนอ่าน architect data คือต้องผ่านมาบ้าง จะเข้าใจอย่างแจ่มชัด ว่าด้วยเรื่องของอำนาจ และเส้นสาย (คือจริงๆมันก้อเกือบทุกงานอ่ะนะ ไม่ว่าจะงานราษฏร์ งานหลวง) ว่ามันมีส่วนขับเคลื่อนระบบอย่างไรแน่ๆจะรู้อีกอย่างว่า เผลอๆ พรรคเทพ อาจกินมากก่าอีก เหอๆ เพราะเส้นสายไม่เบาด้วยกันทั้งนั้น

เจ้าพ่อท้องถิ่น การเมือง โลกาภิวัฒน์
ชัยยนต์ ประดิษฐศิลป์ และ โอฬาร ถิ่นบางเตียว

อ่านมันส์ๆ เพราะเป็นเรื่องที่น่าจะรู้อยู่แล้ว คือถ้าทำงานด้านนี้รู้แน่นอนอาจจะแบบเต็มใบไม่เต็มใบก้อแล้วแต่
สิ่งหนึ่งที่ต้องชมครับคือผู้เขียน นำมาสังเคราะห์ มาแตกประเด็นออก โดยใช้กรณีศึกษาอย่างน่าสนใจ
อ่านไปผมว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะรู้ทันทีว่า ที่นั่นอ่ะที่ไหน เหอๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น