วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ล้างหนี้เลือด - The Kill Artist


ล้างหนี้เลือด - The Kill Artist
แดเนียล ซิลวา - Daniel Silva
ไพบูลย์ สุทธิ แปล

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Jun 14 2009, 10:18 PM

เล่มสุดท้ายที่วางขายแต่เป็นเล่มแรก ของนวนิยายชุดสายลับ เล่มนี้พาเราย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งภาระกิจแรก หลังเกิดจากเหตุการณ์วางระเบิดรถของอัลลอนที่ทำให้ลูกตายและเมียบาดเจ็บขั้นรุนแรง ที่เวียนนา แถมรายละเอียดเกริ่นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีนี้ประกอบ เพื่อให้เห็นภาพและแรงจูงใจที่เคลื่อนไหวตัวละคร ตัวร้ายและตัวดีในเรื่องนี้ ว่าจะส่งผลต่อไปอย่างไร

ว่ากันว่างานสายลับเป็นงานชั่วชีวิตและแทบจะเป็นงานฟูไทม์ แบบที่เอาทุกอย่างในชีวิตของคนที่เกี่ยวข้องและลามเข้าไปในชีวิตส่วนตัวของคนที่อยู่รอบข้างของคนนั้นๆไปด้วย งานที่มีความน่าตื้นเต้นและน่ากลัวพอกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของบางคน นี่คือสิ่งที่นวนิยายตอนนี้พยายามนำเสนอ น่าจะพอเห็นภาพได้บ้าง / ภาพของปาเลสไตน์ และอิสราเอล คู่กัดตัวเอ้ ถือว่าเรื่อง "ล้างหนี้เลือด" จะออกแนวดราม่ามากกว่าหลายๆเล่มในชุด เป็นความจริงที่ว่าทุกเล่มของนวนิยายชุดนี้ มีการบรรยายประเด็นความขัดแย้งนั้น แต่เล่มนี้เน้นมากขึ้นกว่า (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งโชคดีที่มาสั้นๆ ออกแนวประวัติศาสตร์เลือดเคล้าน้ำตา (หลายตอนที่นวนิยายเรื่องนี้ยกขึ้นมา ถือว่าให้ความรู้ทางอ้อมได้ดี) มีการบรรยายเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดกับทั้งคู่กัดมาประกอบจากสองมุมมองที่ต่างกัน อาจจะด้วยว่า เรื่องนี้ประเด็นความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด นอกเหนือจากเรื่องราวความขัดแย้งส่วนบุคคล หรือแรงจูงใจส่วนตัวของแต่ละตัวละคร

ประเด็นเรื่องความรู้สึกส่วนบุคคล ของแต่ละตัวละครจะถือว่าเด่นมากก็ไม่ผิด ฉากแอคชั่นเลยน้อยลงไปด้วยแบบน่าใจหาย แต่ได้เรื่องความโหดและสมจริงมาเสริมแทน ทำให้ยังรู้สึกว่าอ่านแนวแอคชั่นตื่นเต้นสืบสวนอยู่ แถมโลเคชั่นของแต่ละฉากก็ทำให้เพิ่มความสมจริงขึ้นอีกไม่น้อย เช่น แคนนาดา, เนเธอร์แลนด์, อเมริกา, อังกฤษ และฝรั่งเศส ที่ว่าสมจริงขึ้นก็เพราะมันให้เรื่องดูแน่นขึ้นเนื่องจากมันดูเป็นเหตุเป็นผลกันดี

เรื่องคร่าวๆคือ เกเบรียล อัลลอน อดีตเจ้าหน้าที่ภาคสนาม และมือสังหารผู้ยิ่งใหญ่ขององค์กร กำลังพักทำใจจากเหตุการณ์ในอดีต ด้วยการทำงานบูรณะภาพเขียน ที่ถึงแม้จะเป็นเพียงงานบังหน้าแต่เขาก็ทำได้ดี แถมมีชื่อเสียงพอตัวและถือว่าเป็นการบำบัดทางจิตให้เขาได้อีกทางหนึ่ง ได้ถูกขอร้องแกมบังคับให้กลับมาปฎิบัติภาระกิจที่สำคัญมาก โดยเจ้านายเก่า อารี แชมรอน หลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในปารีส และที่สำคัญมีเหตุให้เชื่อได้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังหรือดีไม่ดีคือผู้กระทำเองคือ ศัตรูเก่าที่มีความหลังกันอยู่กับอัลลอน ทั้งคู่เหมือนถูกดึงดูดให้กลับมาเจอกัน เพื่อสะสางบางเรื่องให้จบ / อารี แชมรอน เจ้านายของ อัลลอน ก็ยังคงบงการอยู่เบื้องหลังเหมือนเคย และเพราะ แชมรอน นี่เองที่ทำให้เรื่องนี้เพิ่มความซับซ้อนเข้าไปอีกแบบที่ อัลลอน ก็คาดไม่ถึง (แต่ แชมรอน คาดถึงหรือไม่ ต้องติดตามต่อไป)

องค์ประกอบเพิ่มดีกรีอีกอันหนึ่ง คือ การปรากฏตัวของสาวสวย ผู้เคยร่วมงานกับอัลลอน ที่จริงแล้วก็มีอดีตกันอยู่ ซึ่งทำให้เรื่องมีมิติ และมีที่มาที่ไปเพิ่มขึ้น อีกทั้งตอนจบที่ต้องถือว่าอึ้งงงงจริงๆ แม้ว่าหลายๆเล่มในชุดที่ตามมาตอนจบมักจะจบแบบขัดใจและทื่อเกินในบางครั้ง แต่เล่มนี้กลับมีประเด็นหลังจากเหตุการณ์ที่เราคิดว่าเรื่องน่าจะจบแบบนี้ (อีกแล้ว) แต่ปรากฏว่าไม่จบ กลับมาหักมุมแบบถึงกับร้องทีเดียวว่า "เด็ด" ต้องยอมรับว่าทำให้มีประเด็นจบซ้อนจบ ที่ถือว่าสนุกกว่าแบบที่จบกันในเล่มต่อๆมา

เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง ยังกระชับในระดับหนึ่งเหมือนเคย อีกอย่างขนาดความหนาก็ทำให้อ่านกันแบบเพลินๆได้ดี ไม่เครียดมากไม่ลึกมากจนปวดหัวอีกต่างหาก จริงๆ ถ้าเดี๋ยวนี้ใครสังเกตตามร้านหนังสือ จะเห็นว่าหนังสือประมาณนี้ชักเยอะขึ้น พวกแอคชั่นผสมประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะใหม่หรือเก่าก็ตาม แต่แต่ละเล่มมักมีขนาดที่ใหญ่น้องๆพจนานุกรม ทำให้บางคนไม่อาจทนมันได้ เล่มนี้น่าจะเติมช่องว่างนั้นได้ดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น