วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Death at a Funeral (2007)


Death at a Funeral (2007)
comedy
Directors: Frank Oz

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Mar 26 2009, 07:13 AM

ดูมาหลายครั้ง ผมว่าหนังอังกฤษมักมีแง่มุม ตลกที่แปลก และขำมากกว่า อเมริกัน สไตล์ โอเคบางเรื่องก็ฝืด แต่ถ้าลองขำล่ะก้อขำฮาแตกฮาแตนตั้งแต่เริ่มจนจบเลย / ประเภทขำแดกดัน หรือตลกร้าย เป็นต้น อย่างเรื่องนี้ขำตั้งแต่ต้น (โผล่มาเจอมุขขนโล่งผิดใบมาส่ง) ยันจบ (คนแก่แก้ผ้านั่งเมายาบนหลังคาบ้าน) แจกมุขแทบตลอดเรื่อง แถมมีมุขใหม่แทรกปะปราย ให้เรื่องซับซ้อนขึ้น ให้ขำมากขึ้น / ผมเข้าใจว่านี่เป็นหนังสำหรับฉายทางโทรทัศน์ (ได้รางวัล audience award ทั้ง HBO และ Cinemax ประจำปี 2007) เลยไม่แน่ใจว่ามีใครเคยผ่านตาเรื่องนี้บ้างหรือไม่

เนื้อเรื่องหลักของเรื่องนี้เป็นประเภท เรื่องที่เกิดในวันเดียว สถานที่หลักที่เดียว และงานเดียว (ออกไปทางหนังที่เน้นไปที่การแสดงเป็นหลัก) ถ้าจะว่าไป ก็จะคล้ายๆกับขนบในการเขียนนวนิยายแนวแอริสโตเติล อยู่มาก (ในขนบแอริสโตเติล เป็นแนวโศกนาฏกรรม นัยว่าเพื่อบีบคั้นอารมณ์ได้เต็มที่).....ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเกี่ยวกับงานศพ ซึ่งเป็นงานศพของหัวหน้าครอบครัวหนึ่ง ที่มีลูกชาย 2 คน คนพี่เป็นนักเขียนดังอยู่นิวยอร์ค โสด และรักความหรูหรา / คนน้องฝันอยากเป็นนักเขียน แต่งงานแล้วแต่ภรรยาอยากแยกบ้านออกไปเป็นอิสระ เพราะปัจจุบันยังต้องอยู่กับพ่อแม่ ในบ้านที่กำลังจะจัดงานศพนี้แหละ ซึ่งอันนี้มีมุข เล็กๆแจก ระหว่างแม่สะใภ้กับสะใภ้ พอให้ขำ ประมาณแม่สะใภ้ แดกดันลูกสะใภ้ / แขกเหรื่อในงาน ก็ทั่วๆไปมีญาติ (ซึ่งแต่ละคนที่มาก็จะมีหน้าที่และภาระเกี่ยวเนื่องต่างกันไป...นั่นหมายความว่า หน้าที่ขำก็ต่างกันไป), มีเพื่อน (เช่นเดียวกับญาติแต่มีดีกรี ที่หลากหลายกว่าในการขำ), มีนักบวชมาทำพิธี และมีแขก เป็นชายแคระที่เจ้าของงานไม่รู้จักอีกหนึ่ง ผู้ซึ่งถามไปถามมากลายเป็นแขกคนนี้รู้จักครอบครัวนี้ดี (เรียกว่าหนึ่งในปมขำประจำเรื่องแล้วกัน)

มีประโยคหลายๆประโยคที่เกี่ยวกับงานศพ เช่น งานศพน่ะเป็นเรื่องของคนเป็น และตัวตายชื่อยังอยู่...น่าจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ดี คือทั้งคนตายทิ้งเรื่อง และคนเป็นหาเรื่อง อันนี้ผมว่าคนที่ยังอยู่เป็นคนตัดสินซะมากกว่า เพราะแน่นอนว่าทุกเรื่องเมื่อเจ้าของเรื่องตายไป และเมื่อคนเป็นรู้เรื่อง การตีความก็ตกเป็นหน้าที่ของคนเป็น อย่างที่คนตายอาจจะไม่ได้ขอ / แถมหนัง ยังชี้ให้เห็นแง่มุมที่ว่า คนตายบางครั้งก็เป็นจุดเชื่อมความสัมพันธ์ให้คนเป็นได้ด้วย ในกรณีคล้ายๆว่า คนบางคนประโยชน์หรือหน้าที่บางประการ ไม่ได้ตายตามร่างไปด้วย หากแต่ยังคงทำหน้าที่ต่อเนื่องต่อไป บางครั้งต่อคนที่อยู่นอกครอบครัวด้วยซ้ำไป....ผลงานส่งผ่านมาจากยมโลก ยังไงยังงั้น

องค์ประกอบที่ทำให้หนังเรื่องนี้สนุก ก้อมาจาก ยาเสพติด(ยาหนึ่งขวดเล็กๆจากญาติคนหนึ่งของผู้ตายที่นำมางานเพื่อจะไปให้เพื่อนต่อ) และผู้ตายนี่เอง.....ตัวแสดงทุกตัว ผมว่าแทบบอกไม่ได้เลยว่าคนไหนเป็นดาราสมทบเพราะเด่นกันไปคนละแบบ รวมทั้งมีเหตุมีผลและเกี่ยวเนื่องกันตลอดทั้งหนัง ประมาณว่าขาดไปอาจกร่อย / และเนื่องด้วยหนังมีขนาดที่ไม่ยาวมาก การสอดใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบ ละครทางโทรทัศน์ ก็ทำให้หนังไม่ดูกระด้างมากจนเกินไป แถมด้วยมุขขำที่สอดรับกันไปเป็นทอดๆ / มุขขำ
อาจจะเรียกว่าเป็นมุขสามัญตะวันตกรึเปล่า อันนี้ก็ไม่แน่ใจ มีการใช้มุขเล่นอุจจาระเหมือนบ้านเราด้วยซ้ำไป / จุดกินใจมาประมาณท้ายเรื่อง มากทั้งความหมายในประโยคพูดและการคลี่คลายของเรื่องและตัวละคร ดูจบแล้วถึงกับลืมไปเลยว่าเป็นหนังตลก ประมาณว่าฮามา 90 เปอร์เซ็นต์ พอจะซึ้งก็เล่นกินใจกันซะ

ดาราหลายคนในเรื่องนี้เป็นที่คุ้นหน้าเป็นอย่างดี จากหนังดังๆหลายๆเรื่อง ซึ่งแต่ละคนถือว่าเล่นดีกันตามมาตรฐานอยู่แล้ว แม้ว่าส่วนใหญ่เราจะผ่านตา แต่หนังตลกก็ตาม / ผู้กำกับสิ ทำเอาอึ้ง เพราะพึ่งรู้ว่าเป็นคนพากย์เสียง โยด้า อาจารย์ เจไดในสตาร์วอร์ส หรือ Monsters, Inc. พากย์เป็นเสียง Fungus / กำกับหนังที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จอย่าง The Stepford Wives คือจริงๆก็ไอเดียดีนะ / ลองมาดูเรื่องนี้แล้วกันคับว่าจะฮา อุจจาระแตกอุจจาระแตน ปานใด แต่สมรางวัลล่ะ อันนี้เห็นด้วย

อันนี้เป็นโซน 1 มีซับไตเติลเรียบร้อย แต่ค่อนข้างพูดเร็วในบางจังหวะ แต่ไม่ยากครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น