วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Seven Pounds


Seven Pounds
Drama

Director - Gabriele Muccino
Will Smith - Ben Thomas
Rosario Dawson - Emily Posa
Woody Harrelson - Ezra Turner
Michael Ealy - Ben's Brother
Barry Pepper - Dan

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Apr 18 2009, 10:11 PM

ในความรู้สึกแล้วนี่เป็นหนังที่จับใจมากๆเรื่องหนึ่ง ประเด็นเรื่องชื่อเรื่องที่อาจอ้างอิงกับ "เวนิชวานิช" ที่ เศรษฐีชาวยิว(หน้าเลือด) Shylock เรียกร้องเอาจาก Antonio ซึ่งมาค้ำประกันแทนเพื่อนที่ยืมเงิน ในกรณีไม่สามารถหาเงินมาใช้ให้ได้ภายใน 3 เดือน สัญญาคือ เนื้อสด 1 ปอนด์ที่ใกล้หัวใจของ Antonio เองที่สุด (ความโลภ)หรือกับประโยคที่ว่า
"One Pound of Flesh no more, no less, no cartilage,no bone, but only flesh" ที่มาจากหนังเรื่อง "seven" ซึ่งก้ออ้างอิงมาจาก เวนิชวาณิช เหมือนกัน ข้อความนี้มาจากฉากที่ทนาย (หน้าเลือดและละโมบ greed) ตัดสินใจตัดเนื้อของตัวเอง เพื่อรักษาชีวิต / ผมสนใจในแง่ว่า ความโลภ หนึ่งในบาปร้ายเจ็ดประการ คือบาปที่ทั้งสองเรื่องข้างต้นชูประเด็นเหมือนกัน และเมื่อคุณโลภมาก ลาภจะหาย อันนี้ในกรณีไทยๆ แต่ทั้งสองเรื่องข้างต้น คือการชดใช้ ฉะนั้นเมื่อ เจ็ดคนแปลกหน้า เจอกับการเปรียบเทียบ เรื่องนี้และเรื่องบาป 7 ประการ มันจึงเกิดประเด็น 1คน / 1ปอนด์ / 1บาปที่ต้องชดใช้

พูดถึงหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนแปลกหน้า 7 คน ที่มาเกี่ยวกันโดยผ่าน ตัวเอกของเรื่อง เกี่ยวกัน"อย่างไร" นั่นคงไม่ใช่ประเด็น แต่"ทำไม" มากกว่า เพราะที่ว่าไม่ใช่ประเด็น เพราะมันไปตามทางที่มันควรเป็น แต่คำถาม"ทำไม" กลับมาตอนท้ายเรื่อง ซึ่งทำให้ยิ่งกินใจมากขึ้นอีกหลายเท่า อย่างแรกหากหนังเริ่มคำถามว่า "ทำไม" ผมว่าน้ำหนักจะไปตกที่คำถามว่า "อย่างไร" มากเกินไป (นั่นหมายถึงวิธีการ) เพราะคนดูแต่ละคนย่อมคาดหวังไม่เหมือนกัน จนอาจลดทอนพลังที่แท้จริงไปได้

แค่คำถามว่า "อย่างไร" ซึ่งกินเนื้อที่ไปตลอดจนเกือบจบเรื่อง ได้แสดงอะไรที่เราเรียกว่าความสัมพันธ์ส่วนบุคล สิ่งซึ่งไม่ว่าที่ใด เมื่อไหร่ ก็ยากนักที่ใครคนหนึ่งจะทำกับคนอื่นๆได้อีกหลายๆคน แค่ "อย่างไร"ตอนหนึ่งที่ตัวเอกไปบริจาค ไขกระดูก ซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบสุดแสน หมอถึงกับถามว่า "คุณรู้จักคนไข้มานานแค่ไหนแล้ว" มันตอบอะไรได้บางล่ะ อย่างหนึ่งเลย มันตอบว่า ไม่ใช่ทุกคนก็ทำได้แม้ว่าคุณจะเป็นคนใกล้ชิดกันมากๆก็ตาม / การอ้างว่าช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนก็ดูจะใช้ไม่ได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว สิ่งตอบแทนเรามักมองในบริบทส่วนใหญ่ที่คนมองๆกัน สิ่งตอบแทนมาในหลายรูปแบบ ทั้งสิ่งของหรือความรู้สึก หรือ บางคนหวังการชดใช้ ทดแทน(อันนี้ถ้าเชื่อตามหลักศาสนา)

เนื่องจากที่เกริ่นไปแล้ว คำถามคือ"อย่างไร" เพราะฉะนั้นเรื่องตอนต้นๆอาจมีงงๆหรือ บางช่วงอาจดูหนืดๆไปนิด แต่ยิ่งดูจะยิ่งติดและถลำลึกลงไปในรายละเอียดเรื่อยๆ ยิ่งดูยิ่งกินใจและ ยิ่งถ้าทำใจให้ว่างๆ แล้วนั่งดูจะได้บรรยากาศมากๆ ความนุ่นนวลที่แผ่ไปทั่วเรื่องได้ความรู้สึกระหว่างดูที่ดีอย่างเหลือเชื่อ และตอนจบที่แทบทำให้เกิดคำถามย้อนกลับทันทีว่า "ทำไม" คำตอบนั้นรออยู่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแต่ละคนคงจะตอบคำถามนี้ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพียงแต่เรื่องนี้เลือกที่จะตอบในมุมนี้

นักแสดงทุกคนและผู้กำกับ มีความเป็นมืออาชีพอย่างยิ่ง Will Smith ผู้ผ่านแล้วหลายบทบาท ทั้งเป็นนักมวย, เป็นฮีโร่ขี้เมา, เป็นคนที่สู้กับสัตว์ประหลาด, เป็นคนที่สู้กับคนติดเชื้อ ยังคงรักษามาตรฐานและเล่นได้โดดเด่นจนน่าแปลกใจว่าทำไมไม่ได้รางวัลอะไรเลย ส่วนนักแสดงท่านอื่นก็จัดว่าโดดเด่นกันทั้งนั้น Rosario Dawson ที่แต่ก่อนเคยเห็นเล่นแต่บทรองๆ (แต่จริงก็เล่นดี) มาเรื่องนี้ได้บทเด่นที่ถือว่าส่งสุดๆ เพราะเป็นบทที่ต้องแสดงอารมณ์แห่งโชคชะตา และในขณะเดียวกันก็ต้องมีความน่ารักแฝงอยู่ หรือแม้แต่ คนอื่นๆถึงจะมาสั้นๆ แต่มาถูกจังหวะและถือว่าคัดตัวแสดงได้เหมาะสมมาก อย่าง Woody Harrelson, Barry Pepper และ Michael Ealy มืออาชีพมาก ส่งและรับบทได้ดี อย่างว่าคือหนังประเภทนี้ ดาราต้องเล่นกันให้ได้อย่างนี้ด้วย

สำหรับใครที่ดูมาแล้วจาก โรง คงรู้สึกอิ่มเอิบไปแล้ว ตอนนี้ที่เห็นมีแต่ blu ray ออกมาขาย อึมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ลองหาๆดูแล้วกันสำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูและชอบหนังประเภทจับใจเน้นที่คนแสดง, อารมณ์และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครกับผู้คนเป็นหลัก อย่างพวก Crash , Reign Over Me หรือ Babel เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น