วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

The Power Of Myth - Joseph Campbell & Bill Moyers


The Power Of Myth - Joseph Campbell & Bill Moyers
พลานุภาพแห่งเทพปกรณัม - บารนี บุญทรง แปล

มูลนิธิกิ่งแก้ว อัตถากร

ต้นฉบับเขียนเมื่อ Apr 7 2009, 11:43 PM

หนังสือประมาณ เทพปกรณัม นอกจาก ต่วยตูน ผมไม่เคยสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออธิบายเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยก็ตาม เห็นครั้งแรกนึกว่าคล้ายแต่หลังจากอ่านไปแค่คำนำ พบว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับสไตล์ ต่วยตูน แม้แต่น้อย เป็นแนวปรัชญา หรือศาสนา มากกว่า อาจจะไปหลงประเด็นตอนดูหน้าปก รวมทั้งอีกอย่างหนังสือจากค่ายนี้มักห่อพลาสติกมาแล้วอย่างสวยงามยากที่จะเปิดดู ต้องไปบอกเคาน์เตอร์ให้เปิดให้ แต่เรามันพวกปากหนัก เหอๆ ลองซื้อเลย ซึ่งประทับใจมาก นานๆได้อ่านหนังสืออย่างนี้สักที ถือว่าดีให้อาหารสมองตัวเองซะบ้าง

หนังสือเล่มนี้ ใช้การถอดเทปการพูดคุยกันระหว่างอาจารย์ด้าน เทพปกรณัม ที่โด่งดัง Joseph Campbell กับ นักข่าว Bill Moyers เป็นผู้สัมภาษณ์ พิมพ์ขายมาตั้งแต่ ปี1988 แต่คุณ Campbell แกตายซะก่อนที่หนังสือเล่มนี้จะเป็นรูปเป็นร่าง / ความคิดของทั้ง คุณ Campbell กับ คุณ Moyers จะว่าไปไม่สุดโต่งเหมือนบางเล่ม แต่กลับเน้นการค้นหาและทำความเข้าใจในบทบาทของแต่ละบริบทที่ยกขึ้นมาคุยในแต่ละด้านของ เทพปกรณัม มีการยกตัวอย่างเชิงจิตวิญญาณที่น่าสนใจ และง่ายๆไม่ซับซ้อนหลายกรณี ซึ่งทำให้อ่านสนุกเพราะทั้ง 2 ท่านล้วนมีความรู้และมุมมองในระดับที่น่าทึ่งอยู่แล้ว / ง่ายๆเลยเราจะเริ่มมองเห็น พิธีกรรมอันมากมายในชีวิตของเราทั่วไปหมด จนใครที่คิดว่าเรื่อง เทพปกรณัม เป็นเรื่องล้าสมัย อาจต้องเปลี่ยนความคิดทีเดียว โบราณน่ะใช่แต่ไม่ล้าสมัย ทั้งพิธีสวนสนาม, พิธีแต่งงาน, พิธีบวช, พิธีรับนักศึกษาใหม่, พิธีครอบครู, พิธีจบการศึกษา และอีกสารพัดพิธี แม้กระทั่งการชุมนุมบางอย่างหรือการยกพวกตีกันก็มีความเป็นพิธีกรรมสูง มีลำดับจนบางครั้งเรามองข้ามมันไป / เห็นได้ชัดต่อไปอีกว่าเทพปกรณัมอยู่ในชีวิตเราและศาสนามากแค่ไหน เช่น การแนะนำการเดินทางของปัญญา โดยมีเทพปกรณัม นำทางมีมานานแล้ว ในบ้านเราที่เห็น เช่นการบูชาผีป่า, ผีบ้าน, ผีเรือน หรือ พิธีกรรมด้านการตาย ไม่ว่าจะจีน ไทย ฝรั่ง แขก ล้วนพูดถึงการเดินทางไกลเพื่อค้นหา ผมก็พึ่งทราบว่าหลายๆอย่างนั้นมีความคล้ายคลึงกับทั่วโลกแต่อาจต่างในแง่รายละเอียด แต่จุดมุ่งหมายนั้นเหมือนกัน

หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นตอนๆ รวมทั้งหมด 8 ตอน ครอบคลุมเนื้อหากว้างๆ ทางด้านเทพปกรณัม ไว้หลายด้าน แต่ละบทก็จะพูดในประเด็นต่างๆออกไป ยกตัวอย่างเช่น ในบทแรก พูดถึง เทพปกรณัมและโลกสมัยใหม่ ก็เป็นการกล่าวหลากหลายทั้งในแง่สังคม การแต่งงาน, ภาพลักษณ์ในสังคม, หน้าที่การงาน (ในบทนี้ยกตัวอย่าง ความเป็นสถาบันของผู้พิพากษาและประธานาธิบดี ว่าไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลอีกต่อไป แต่แน่นอนเรื่องของอำนาจไม่ว่าจะสถาบันใด ล้วนสามารถก้าวไปด้านมืดได้ทั้งนั้น อันนี้รวมทั้งครู นักเรียน หมอ สถาปนิก คืออาชีพใดๆก็ตามที่มีความเป็นสถาบันอยู่แล้ว) หรือแม้ถึงการพูดถึงในแง่เทพนิยาย กับสัญลักษณ์ในชีวิตประจำวัน / ในบทแรกยังมีการให้คำอธิบายคร่าวๆถึงความหมายของเทพเจ้าว่าคือ "บุคลาธิษฐานของแรงผลักดันหรือระบบค่านิยมที่มีบทบาทในชีวิตมนุษย์และในจักรวาล" น่าสนใจมากในแง่ที่ว่าทุกศาสนาล้วนใช้กลวิธีเรื่องบุคลาธิษฐานในการอธิบายความ สอนศิษย์กันทั้งนั้น

ในบทต่อๆมาก็ล้วนน่าสนใจและเปิดประเด็นกัน ง่ายๆตรงไปตรงมาดีแต่ก็จะเริ่มลงในรายละเอียดมากขึ้น จะว่ายากขึ้นไหมคงไม่ เพราะการปูพื้นฐานมาก่อนในบทแรกและคำนำช่วยได้มาก โดยยกทั้งเรื่องศาสนาหลายๆศาสนา แต่แกนจะเป็น คริสต์นะ อาจเป็นเพราะตอนแรกหนังสือเล่มนี้ทำให้คนตะวันตกอ่านก่อนก็ได้ (เพราะเหมือนหลายๆเล่ม ประเด็นศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ศรัทธาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต้องมีปัญญาด้วย) หรือในกรณีบางบทมีการกล่าวยกตัวอย่างน่าสนใจกับ เด็กวัยรุ่นปัจจุบันกับพิธีกรรมการเปลี่ยนสถานะหรือเรียกว่าการเปลี่ยนสภาพจากเด็กเป็นผู้ใหญ่ (ถ้าเคยดูพวกรายการเกี่ยวกับชนเผ่าทั้งหลายก็จะเห็นภาพครับ เช่นการสักตามร่างกายเป็นต้น) ทำไมผู้หญิงถึงมีพิธีสู่วัยสาวไม่สำคัญเท่าผู้ชาย ลองอ่านดูแล้วจะขำว่าเอ ก็จริงนะ ผู้ชายมันอย่างนั้นจริง / ยิ่งบทหลังๆนี่บอกได้เลยว่าดำดิ่งกันสนุกสนานไปเลย

อันนี้เป็นประโยคแรกๆที่คุณ Moyers ยกขึ้นมาในคำนำ โดยเป็นหนึ่งในการสนทนาครั้งหนึ่งกับคุณ Campbell เพียงแต่ไม่ได้รวมในเล่มนี้ ประโยคนี้กินใจผมมากทีเดียว
[ พ่อหมอชาวเอสกิโมเผ่าคาริบู ชื่อ อิกจูการ์จูค [Igjugarjuk] พูดกับชาวตะวันตกเรื่องปัญญาว่า
"ปัญญาที่แท้จริงพำนักห่างไกลจากมนุษยชาติ ออกไปไกลโพ้นในความเปล่าเปลี่ยวที่ใหญ่ยิ่ง และสามารถไปถึงได้โดยผ่านความทุกข์เพียงอย่างเดียว ความยากไร้และความทุกข์เท่านั้นที่เปิดจิตไปสู่สิ่งที่ถูกเก็บซ่อนไว้จากสายตาผู้อื่น"] - คำถามต่อมาคือทำไมล่ะ อึม น่าคิดดี

ขอให้มีความสุขกับเล่มนี้ครับ อาจดูใหญ่ไปนิดแต่อ่านคล่องแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น